แชร์

"กรมชลฯ" จัดสื่อมวลชนสัญจร ติดตามการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ภาคตะวันออก - EEC สร้างความมั่นใจ มีน้ำใช้เพียงพอ

อัพเดทล่าสุด: 30 ส.ค. 2025
508 ผู้เข้าชม

"กรมชลประทาน" จัดสื่อมวลชนสัญจรติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก และพื้นที่ EEC หนุนเศรษฐกิจพื้นที่ขยายตัว สร้างความมั่นใจประชาชน นักลงทุน และเกษตรกรมีน้ำใช้เพียงพอ

นายทินกร เหลือล้น ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 9 และผู้บริหารในพื้นที่ นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่เพื่อตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำอ่างเก็บน้ำประแสร์ อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล จ.ระยอง และอ่างเก็บน้ำบางพระ จ.ชลบุรี เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำมีประสิทธิภาพเป็นไปตามเป้าหมาย สามารถกระจายน้ำได้ทั่วถึงและเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค รวมทั้งสามารถรักษาระบบนิเวศ การเกษตร การอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว และยังเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือปัญหาภัยแล้งในปี 2569 ที่อาจเกิดขึ้นจากปัญหาสภาพภูมิอากาศของโลกที่มีความแปรปรวน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการใช้น้ำในพื้นที่อย่างต่อเนื่องและยาวนาน โดยเฉพาะในพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC

นายทินกร เหลือล้น ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 9 เปิดเผยว่า ปัจจุบัน (28 ส.ค.68) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั้ง 58 แห่ง ในพื้นที่ภาคตะวันออก มีปริมาณน้ำเก็บกักรวมกันทั้งสิ้น 1,344 ล้านลบ.ม. หรือคิดเป็นเกือบ 53% ของความจุอ่างฯรวมกัน จนถึงขณะนี้มีผลการสูบน้ำโครงข่ายบริหารจัดการน้ำภาคตะวันออก ดังนี้

1) การสูบผันน้ำจากคลองพระองค์ฯและคลองชลประทานพานทอง มาเติมน้ำต้นทุนในอ่างฯบางพระ ปริมาณน้ำสะสมรวมประมาณ 35.4 ล้านลบ.ม.

2) การสูบผันน้ำจากแม่น้ำบางปะกง มาเติมน้ำต้นทุนให้อ่างฯบางพระ ปริมาณน้ำสะสมรวม 3.1 ล้านลบ.ม.

3) การสูบผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ ไปยังอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ปริมาณน้ำสะสมรวม 27.44 ล้านลบ.ม.

4) การสูบผันน้ำกลับจากคลองสะพานไปยังอ่างเก็บน้ำประแสร์ ปริมาณน้ำสะสมรวม 7.8 ล้านลบ.ม.
5) การสูบผันน้ำอ่างเก็บน้ำประแสร์ไปยังอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ เพื่อไปเสริมน้ำต้นทุนให้กับอ่างฯหนองปลาไหล ปริมาณน้ำสะสมรวม 20.17 ล้านลบ.ม.
6) การสูบผันน้ำกลับจากวัดละหารไร่ไปยังอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ปริมาณน้ำสะสมรวม 1.58 ล้านลบ.ม.

ซึ่งถือว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้ สามารถสนับสนุนน้ำเพื่อการผลิตน้ำประปา รักษาระบบนิเวศ การเกษตรและภาคอุตสหกรรม ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC (ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา) ได้อย่างเพียงพอ ตลอดทั้งปี

อย่างไรก็ตาม เพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับปริมาณความต้องการใช้น้ำในพื้นที่ที่เพิ่มมากขึ้น กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้ดำเนินโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อสร้างความมั่นคงด้านน้ำ ตั้งแต่ปี 2563-2580 รวมทั้งสิ้น 39 โครงการ ทั้งการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำใหม่ ปรับปรุงเพิ่มความจุอ่างเก็บน้ำเดิม สร้างโครงข่ายน้ำเพิ่มขึ้น จัดทำระบบสูบน้ำกลับ รวมทั้งการขุดลอก และการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ลุ่มต่ำเพิ่มเติม และยังได้มีการนำแนวคิดและนวัตกรรมมาใช้ในการบริหารจัดการน้ำเพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีโครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จ 17 โครงการ อยู่ระหว่างดำเนินการ 6 โครงการ และเป็นโครงการที่ต้องขับเคลื่อนอีก 16 โครงการ หากดำเนินการโครงการแล้วเสร็จทั้งหมด จะมีโอกาสสามารถเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนได้ถึง 909 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นคงทางด้านน้ำให้แก่ประชาชนและเกษตรกรทั้งในและนอกพื้นที่ EEC ให้มีน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคและการเกษตรใช้ได้อย่างเพียงพอและไม่ขาดแคลน

นายทินกร เหลือล้น กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมชลประทานยังได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหาภัยแล้งโดยมุ่งเน้นการพัฒนาแหล่งน้ำโดยใช้ศักยภาพของลุ่มน้ำต่าง ๆ ให้เกิดความสมดุลเพียงพอต่อความต้องการ บริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ ปรับปรุงการบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงความต้องการใช้น้ำในแต่ละพื้นที่ มีแนวทางในการป้องกันและบรรเทาภัยจากน้ำเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยแล้งและน้ำท่วม รวมทั้งการสร้างเครือข่ายความร่วมมือในทุกภาคส่วน กำหนดให้มีการบริหารจัดการน้ำในระดับพื้นที่พร้อมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน สร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาภัยแล้ง รวมทั้งการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านน้ำอย่างยั่งยืน

 


บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy